แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Musics แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Musics แสดงบทความทั้งหมด

วันพฤหัสบดีที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

Musics Comment

MRM - Music Records matching

The application demonstrates music identification technology. Given a short audio clip it finds the full record.
The application demonstrates use of two technologies developed by Sloud Inc.: Audio (Acoustic) Fingerprinting and Audio Identification.
Sloud MRM Acoustic Fingerprint (audio fingerprint) is a compact representation or index of an audio record. The audioprint can be used to find particular record in a large music database. This audioprint knows nothing of the title of the record, or performer, or any other type of textual description of the music. It's based exclusively on the sound data itself. Sloud MRM Audio Fingerprinting is constructed in two stages:
conversion of audiodata to some standard format (PCM);
indexing of the PCM data from the beginning to the end.
The current demo works with MP3 files because they seem to be the most commonly used. But any other type of music files can be used just as well and support for other formats is planned.
Sloud MRM Audio Identification is the technology which identifies the records by their Sloud MRM Acoustic Fingerprints. This component records a short 15-second fragment of the record, creates its audioprint, then searches a database for similar audioprints.
Both technologies are targeted at weakly distorted records. Such alterations appear, for instance, when the record is digitized, when it's converted from one audio format to another, or during compression/decompression. The modifications introduce artifacts that can be heard as a slight hissing or alterations in high or low pitch sounds of the music. Thus, only partial file content is used for indexing. For instance, two records digitized at two different sampling frequencies will produce either identical or very similar indexes.
In order to demonstrate technology clearly, the Sloud MRM Audio Identification records sound played by the user's media player (as opposed to directly searching for file fragments).

Photobucket




Photobucket



Photobucket


Photobucket




Photobucket




Photobucket


วันอาทิตย์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

Health slender.

OVER-CONSUME



"แค่มีบัตรใบเดียว อยากได้อะไรก็รูดปื๊ด...รูดปื๊ดดดด"

…โรลสรอยด์ เบนซ์ บีเอ็มของพ่อจอดเรียงรายอยู่ในโรงรถ เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋าสารพัดแบบของแม่ เรียงรายเต็มตู้บิลด์อินครึ่งห้องบัตรเครดิตทุกธนาคารอัดแน่นอยู่ในกระเป่าสตางค์ เครื่องเล่นดีวีดี ชุดโฮมเธียเตอร์ iPod - MP 3 - MP 4 - โทรศัพท์มือถือ กล้องดิจิติอล ฯลฯ

“ไม่ใช่เพราะพ่อแม่อยากให้สังคมยอมรับหรอกหรือถึงได้จำเป็นต้องบริโภควัตถุเหล่านี้”

ผู้ช่วยศาสตราจารย์อู่ทอง ประศาสน์วินิจฉัย อดีตนักวิชาการด้านสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ได้ตั้งข้อสังเกตว่า สาเหตุที่แท้จริงของการบริโภคอย่างไม่เพียงพอหรือบริโภคเกินของคนในยุคนี้ เป็นเพราะต้องการ “การยอมรับ” จากสังคม

“…อย่างเช่นพ่อต้องการเป็นหัวหน้างาน ก็ต้องมีสิ่งพิสูจน์ให้เขาเชื่อถือ จำเป็นต้องมีอุปกรณ์จำเป็นของชีวิต เช่น รถยนต์ แม่เองต้องใส่น้ำหอม ใส่เครื่องประดับ ไม่ใช่เพราะการยอมรับในสังคมหรอกหรือ ทั้งเครดิตในหน้าที่การงาน หน้าตาในสังคม

“พ่อแม่บางคนไม่ได้ซื้อมอเตอร์ไซค์ให้ลูก แต่ลูกไม่ยอมกินข้าวถ้าไม่ได้มอเตอร์ไซค์ เพราะใครๆ เขามีกัน กระแสความอยากมีอยากได้เหล่านี้มันมีมาเป็นกระบวน แม้พ่อแม่จะไม่เห็นด้วยแต่ที่สุดแล้วก็ทนกระแสไม่ไหว แล้วอันที่จริงพ่อแม่ส่วนใหญ่มักจะเห็นดีเห็นงามไปตามกระแส… ซึ่งมีผลต่อการสร้างลักษณะนิสัยการบริโภคของลูก”
อาจารย์อู่ทองกล่าวว่า พฤติกรรมการบริโภคนิยมของพ่อแม่มีผลเชื่อมโยงไปถึงตัวเด็กๆ เราจึงเห็นวัยรุ่นทำตัวอินเทรนด์ตั้งแต่การแต่งตัวไปจนถึงมีข้าวของเครื่องใช้ที่คนวัยเดียวกันมี…

“ดิฉันเชื่อว่า คนส่วนใหญ่ไม่สามารถยืนหยัดเป็นตัวของตัวเองโดยไม่รับผลกระทบจากคนรอบข้าง วัยรุ่นที่พยายามแต่งตัวอย่างนั้นอย่างนี้สารพัดแบบก็ไม่ใช่ต้องการยอมรับหรอกหรือ ถ้าอยู่ในบรรดาเพื่อนฝูงที่เปรี้ยว คุณก็ต้องทำตัวเปรี้ยว”
“ตัวพ่อแม่เองตกเป็นเหยื่อกระแสสังคม กระแสสังคมนี้ใช้สื่อหรือไม่?… ดิฉันว่าสื่อเป็นเพียงตัวถ่ายทอด และความถี่ของการถ่ายทอดเป็นตัวกระตุ้นได้ เมื่อคนเห็นโฆษณาบ่อยๆ ก็ทำให้อยากจะมี”
กระแสสังคมที่ทำให้พ่อแม่ตกเป็นเหยื่อนี้เกิดจากปัจจัยหลักที่ภาครัฐเป็นผู้สร้าง
“คุณลองดูกระแสที่รัฐบาลพยายามโหมสิ มันทำให้คนอยากมี อยากเป็น อยากได้ แล้วสิ่งที่รัฐทำคือเปิดโอกาสให้คนได้มีได้เป็นโดยเป็นหนี้ คนจะไม่ยิ่งบริโภคใหญ่เหรอ แต่ก่อนเราอาจจะอยากมี อยากเป็น อยากได้ แต่เราไม่มีบัตรเครดิต เราก็ไม่รู้จะได้ได้อย่างไรในเมื่อเราไม่มีเงินสด หรือแต่ก่อนเรามีแผงลอยอยู่แผงหนึ่งเราก็ไม่สามารถเอาสินทรัพย์ไปแปลงเป็นทุนได้ หรือกว่าจะกู้เครดิตก็มีเงื่อนไขมากมาย เมื่อคนเราเข้าถึงเงินง่าย ก็จะกู้ยืมไปเรื่อยๆ เรื่องใช้หนี้มาทีหลัง เอาเงินจากการเป็นหนี้ไปใช้บริโภคสินค้า เอกชนก็ต้องการกำไร ก็เปิดโอกาสให้คนทำบัตรเครดิตได้หลายใบมากขึ้น ผลเสียที่ตามมาคือ คนเป็นหนี้มหาศาล เมื่อคนเข้าถึงเงินง่ายขึ้น ความรับผิดชอบต่อเงินก็น้อยลง
“คนที่โดนพิษเศรษฐกิจเมื่อช่วงปี 40 อาจจะเข็ด แต่คนรุ่นใหม่อาจยังไม่เข็ด เพราะยังไม่ผ่านความทุกข์ตรงนั้น ก่อนหน้านี้คนที่ได้รับผลสะเทือนมากๆ คือคนที่อยู่ในวงการเงิน แต่คนเป็นหนี้ตอนนี้เป็นประชาชนในชนบท.. คนจนลงส่วนหนึ่งไม่ใช่เพราะเอาเงินไปซื้อวัตถุหรอกหรือ มอเตอร์ไซค์มีกันเพียบเลย ทีวีมีทุกบ้านหลายบ้านมีมากกว่า 1 เครื่อง วัสดุอุปกรณ์ในชีวิตเพิ่มขึ้น เหตุนี้คนจึงเป็นหนี้เพิ่มขึ้น

“คนที่มีหนี้สินก็ต้องทำงานหนักขึ้น คนทำงานหนักขึ้นก็มีวิธีคิดสองแบบ ทำงานหนักขนาดนี้ต้องบริโภคให้คุ้ม เหนื่อยขนาดนี้ต้องใช้เงินเยอะ คนบริโภคเยอะต้องทำงานมาใช้หนี้… เป็นวัฏจักร

ที่บอกว่าทำงานเพื่อลูกที่รักมาก แต่ไม่มีเวลาให้ลูกที่คุณรักโดยเฉพาะในเวลาที่เขาต้องการพ่อแม่ที่สุด เงินอาจไม่มีความหมาย เพราะกว่าจะมีเวลาให้เขาก็อาจจะสายเกินไปก็ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาของวัยรุ่น ความเกเรของลูก บางทีอาจเป็นการเรียกร้องความสนใจจากพ่อแม่ ถ้าพ่อแม่มีเวลาให้ เขาสบายใจที่จะอยู่กับพ่อแม่ อาจจะไม่เกเรก็ได้

ฉะนั้นพ่อแม่ที่ทำงานเพื่อความสุขสบายของลูกอยากให้คิดสักนิด อย่างน้อยถามลูกสักหน่อยว่าเขาอยากได้สิ่งนั้นจริงหรือเปล่า และถ้าเขาอยากได้ ก็อาจจะบอกว่า ถ้าหนูอยากได้ เวลาที่จะใกล้ชิดกันจะหายไป”

"ในปลายปีนี้จะมีวิธีการโฆษณาผ่านระบบโทรศัพท์มือถือ ช่องทางโฆษณาจากทีวีจะไหลเข้ามาสู่มือถือมากขึ้น การรับรู้ข้อมูลกเป็นปัจเจกมากขึ้น และเป็นสินค้าที่กระทบต่อกลุ่มวัยรุ่นมาก"

นันทขว้าง สิรสุนทร นักวิจารณ์และคอลัมนิสต์หนังสือพิมพ์กรุงเทพฯธุรกิจ เล่าถึงวิธีการเข้าถึงบริโภคของสินค้าต่างๆ ที่พยายามหาช่องทางใหม่ๆ ในการโฆษณาประชาสัมพันธ์สินค้าให้ถึงตัวกลุ่มเป้าหมายแบบตัวต่อตัวมากขึ้น และกลุ่มเป้าหมายสำคัญในยุคนี้ คือวัยรุ่น

“น่าเป็นห่วงว่า ผู้ผลิตสื่อ สินค้า ไม่ว่าจะเป็นมือถือ iPod ฯลฯ มีความเข้าใจในกลุ่มลูกค้าวัยรุ่น เขารู้ว่าอะไรที่จะทำให้เด็กวัยรุ่นควักเงินในกระเป๋าซื้อสินค้าได้ง่าย ซึ่งนั่นก็คือ ความทันสมัย (Trendy) และ นัยประหวัดทางเพศ (Sex) ยกตัวอย่างเช่น งานมอเตอร์ไซค์ รถยนต์แต่ละยี่ห้อจำเป็นต้องมีพริตตี้ทำพีอาร์สินค้า

แล้วเทรนด์ใหม่ของสินค้าปัจจุบันก็พยายามดึงดูดวัยรุ่น เช่น โทรศัพท์มือถือเมื่อก่อนเรามีไว้เพื่อสื่อสารพูดคุย แต่เดี๋ยวนี้มันมีแฟชั่นเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น ฟังเพลงได้ ถ่ายรูปได้ ส่งไฟล์ เก็บไฟล์ภาพ คลิปวิดีโอโป๊ ขณะเดียวกันเครื่องเล่น iPod สำหรับฟังเพลงก็ยังสามารถเก็บคลิปวิดีโป๊ได้มากกว่าโทรศัพท์มือถือซะอีก… ทำให้เด็กวัยรุ่นล้วนเริ่มซื้อมาใช้ไว้เก็บสะสมสิ่งเหล่านี้”

การชอปปิ้งได้กลายมาเป็นกิจวัตรสำหรับวัยรุ่น ซึ่งส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 80 ไปชอปปิ้งตามห้างสรรพสินค้าเดือนละครั้ง เช่นเดียวกับการดูหนัง กินอาหารฟาสต์ฟูด เที่ยวกลางคืน ซึ่งล้วนเป็นกิจกรรมที่ทำให้สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายจนพบว่าเยาวชนเกินกว่าครึ่งมีรายรับไม่พอรายจ่าย

กระแสสังคมที่กระตุ้นให้คนใช้เงิน เข้าถึงแหล่งเงินง่าย ทำบัตรเครดิตกันได้ง่ายๆ ยังระบาดมาถึงเยาวชน เปิดโอกาสให้วัยรุ่นสามารถมีบัตรเครดิตให้จับจ่ายสบายมือ โดยไม่รู้ตัวว่าเป็นการสร้างหนี้ตั้งแต่ยังไม่มีรายได้

อาจจะมีคำถามว่า แล้วกำลังน้อยนิดของพ่อแม่ในทุกวันนี้ที่แบกภาระหลายอย่างอยู่บนบ่า จะประคับประคองลูกพาครอบครัวฝ่ากระแสสังคมและกระแสสื่อโฆษณาอย่างไร

อาจารย์อู่ทองให้ความคิดเห็นว่า น่าจะทำได้…

“ถ้าเด็กยังเคารพพ่อแม่ ศรัทธาในความประพฤติการวางตัวของพ่อแม่ ถ้าคุณบริโภคให้น้อยลง คุณก็ใช้เงินน้อยลง มีเวลาให้ลูกมากขึ้น คุณก็สามารถทำตัวให้เป็นตัวอย่างได้…”

ข้อมูลจากโครงการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อพฤติกรรมการใช้สอยของเด็กวัยรุ่น กรณีศึกษาประชนทั่วไปในเขตกรุงเทพมหานคร เมื่อปี 2546

St,Dream

Love in the world


To be Alone

Rug 3 sao

Music [m]

วันศุกร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

Attention PlzZ

สวีสดีครับชาว ThaiComment
ช่วงนี้ Blogger อาจจะโหลดช้าบ้างนะครับ ไม่ทราบสาเหตุเหมือนกัน สำหรับเม้นสวยๆเ ราก็จัดให้วันละประมาณ 4-5 อัน เพื่อนๆ สามารถเข้ามาโพสขอภาพคอมเม้นได้ โดยมีเงื่อนไขว่าต้องเป็นคอมเม้นที่สามารถใช้ได้กว้างๆ ไม่เจาะจงกับบุคคลใดนะครับ ขอให้มีความสุขบนโลกไซเบอร์ครับ



การใช้งาน

  1. เลือกรูปที่โดนใจที่จะนำไป comment จากนั้นให้ Copy Text ไฮไลท์เป็นสีน้ำเงินทั้งหมด(Ctrl+c) ดูตามรูป

  2. จากนั้นนำไปวางตาม Blog ที่ท่านต้องการ ยกตัวอย่าง Hi5


เพียงเท่านี้ก็สามารถมอบมิตรภาพดีๆ ให้แก่กันได้แล้ว -_-*